Follow us                        เข้าสู่ระบบ     
ขายเศษวัตถุดิบ: เปลี่ยนของเหลือในโรงงานให้เป็นกำไร ด้วยระบบจัดการ Scrap Material
คู่มือสำหรับ SME โรงงานและธุรกิจจัดจำหน่าย สร้างระบบติดตาม จัดการ และขายเศษซากเพื่อเพิ่มกระแสเงินสดและลดต้นทุนแฝง
7 July, 2025 by
Taaxteam Post

เศษเหล็ก เศษผ้า เศษพลาสติก: ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในโรงงานของคุณ

สำหรับธุรกิจ SME ในสายการผลิตและจัดจำหน่าย เศษวัตถุดิบเหลือใช้ (Scrap Material) เช่น เศษโลหะ เศษพลาสติก หรือเศษกระดาษ มักถูกมองว่าเป็นเพียง 'ขยะ' ที่ต้องเสียเงินและเสียเวลากำจัดทิ้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้คือ สินทรัพย์ที่ถูกมองข้าม (Overlooked Asset) ที่มีมูลค่ามหาศาล

การปล่อยให้เศษวัตถุดิบเหล่านี้กองทิ้งไว้โดยไม่มีการจัดการ ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยให้เงินสดรั่วไหลออกจากธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย มันคือ ต้นทุนจม (Sunk Cost) ที่สามารถแปรสภาพกลับมาเป็น กระแสเงินสด (Cash Flow) ที่ช่วยเสริมสภาพคล่องและเพิ่มกำไรให้กับบริษัทได้ หากเรามีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ

ต้นทุนแฝงของการปล่อยปละละเลยเศษซาก: มากกว่าที่คุณคิด

การขาดระบบจัดการเศษวัตถุดิบไม่ได้สร้างความเสียหายแค่การสูญเสียรายได้ที่ควรจะได้รับเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อการดำเนินงานในส่วนอื่นๆ ตั้งแต่การบริหารคลังสินค้าไปจนถึงความถูกต้องของข้อมูลทางการเงิน ลองเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการทำงานแบบเดิมๆ กับการมีระบบที่ชัดเจน

ปัญหาจากการไม่จัดการ (Problem) ผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact) การเปลี่ยนแปลงเมื่อมีระบบ (Change with a System)
สูญเสียโอกาสทางรายได้ รายได้ที่ควรจะได้รับหายไป 1-3% ต่อปี จากการขายเศษซากที่ไม่ได้ราคา หรือไม่ได้ขายเลย สร้างกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นจากการขายเศษซากอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ
พื้นที่คลังสินค้าสิ้นเปลือง เสียพื้นที่จัดเก็บ 50-200 ตร.ม. ไปกับกองเศษซากที่ไม่มีการจัดการ ทำให้ต้นทุน การบริหารคลังสินค้า สูงขึ้น ได้พื้นที่คลังสินค้ากลับคืนมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดความแออัด
ข้อมูลบัญชีคลาดเคลื่อน มูลค่าสินค้าคงคลังในงบดุลไม่ถูกต้อง กระทบการคำนวณต้นทุนและกำไร เสี่ยงต่อการตรวจสอบ บันทึกรายรับจากการขายเศษซากได้ครบถ้วน ทำให้งบการเงินสะท้อนความจริงของธุรกิจ
เสียเวลาและแรงงาน พนักงานเสียเวลา 5-10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ไปกับการจัดการของเสียที่ไม่มีประสิทธิภาพ ลดเวลาทำงานที่ไม่จำเป็น พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมที่สร้างมูลค่าได้มากขึ้น

เปลี่ยน 'ของเหลือ' เป็น 'กำไร': หัวใจคือการสร้าง 'ระบบ' ไม่ใช่แค่การ 'ขาย'

หลายธุรกิจมักจัดการเศษซากแบบ 'ตามมีตามเกิด' (Reactive) คือรอให้มีปริมาณเยอะแล้วค่อยหาคนมารับซื้อ ซึ่งมักจะถูกกดราคาและไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย หัวใจสำคัญของการสร้างรายได้จากของเหลือใช้อย่างยั่งยืนคือการเปลี่ยนมุมมองและสร้าง 'ระบบ' การจัดการเชิงรุก (Proactive) ขึ้นมา

Pro Tip: ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จไม่ได้มองว่าเศษซากเป็นขยะ แต่มองเป็น “สินค้าคงคลัง (Inventory)” อีกประเภทหนึ่งที่ต้องบริหารจัดการเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุด

4 ขั้นตอนสร้างระบบติดตามและขายเศษวัตถุดิบ ทำได้ทันที

คุณไม่จำเป็นต้องรอระบบที่ซับซ้อน สามารถเริ่มต้นสร้างกระบวนการจัดการเศษวัตถุดิบได้ทันทีด้วย 4 ขั้นตอนพื้นฐานนี้ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนของเหลือให้กลายเป็นเงินสดหมุนเวียนในธุรกิจของคุณ

  1. ระบุและคัดแยก (Identify & Segregate)
    เริ่มต้นด้วยการกำหนดประเภทของเศษวัตถุดิบที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตของคุณให้ชัดเจน เช่น เหล็ก, อลูมิเนียม, ทองแดง, พลาสติก PET, กระดาษลัง จากนั้นจัดเตรียมพื้นที่หรือภาชนะสำหรับจัดเก็บโดยแยกตามประเภทอย่างชัดเจน การคัดแยกตั้งแต่ต้นทางจะช่วยให้คุณขายได้ราคาดีขึ้น
  2. ชั่งตวงและบันทึก (Weigh & Record)
    ติดตั้งเครื่องชั่งในจุดที่เข้าถึงง่าย และสร้างวินัยในการชั่งน้ำหนักและบันทึกข้อมูลทุกครั้งที่มีการนำเศษวัสดุมาเก็บ อาจเริ่มจากการใช้สมุดบันทึกหรือ Spreadsheet ง่ายๆ เพื่อบันทึกข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่, ประเภทวัสดุ, น้ำหนัก, และแหล่งที่มา (เช่น จากไลน์การผลิตใด)
  3. ประเมินราคาและหาตลาด (Value & Find Buyers)
    ศึกษาข้อมูลราคาตลาดกลางของเศษวัสดุแต่ละประเภทอย่างสม่ำเสมอ (สามารถค้นหาข้อมูลจาก แหล่งข้อมูลผู้รับซื้อรายใหญ่) และติดต่อผู้รับซื้อหลายๆ รายเพื่อเปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขที่ดีที่สุด การมีข้อมูลอยู่ในมือจะทำให้คุณมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น
  4. ขายและกระทบยอด (Sell & Reconcile)
    เมื่อทำการขายแล้ว ให้นำเอกสารการขายและข้อมูลรายรับมาบันทึกในระบบบัญชีทันที ขั้นตอนนี้สำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้ฝ่ายบริหารและการเงินเห็นภาพรวมกำไรที่แท้จริง และสามารถนำข้อมูลไปใช้วางแผน บริการโครงการ ลดต้นทุนในอนาคตได้

จาก Manual สู่ Automation: ใช้ ERP ยกระดับการจัดการเศษซาก

การเริ่มต้นด้วยระบบ Manual อย่าง Spreadsheet เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยม แต่เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น ปริมาณข้อมูลและความซับซ้อนจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งนำไปสู่ข้อจำกัดต่างๆ เช่น ความผิดพลาดของข้อมูล, การทำงานที่แยกส่วน (Data Silos) และความล่าช้าในการตัดสินใจ นี่คือจุดที่เทคโนโลยีอย่างระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) เข้ามามีบทบาทสำคัญ

ระบบ TAAX TEAM ERP สามารถเปลี่ยนกระบวนการจัดการเศษวัตถุดิบที่ยุ่งยากให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติที่เชื่อมโยงกับทุกส่วนขององค์กรได้อย่างสมบูรณ์

ความท้าทายแบบ Manual (Manual Challenge) การยกระดับด้วยระบบ ERP (ERP Enhancement)
ข้อมูลผิดพลาดง่าย (Human Error)
การคีย์ข้อมูลน้ำหนักหรือราคาผิดพลาดใน Spreadsheet
ข้อมูลแม่นยำและเป็นอัตโนมัติ
บันทึกข้อมูลผ่านระบบโดยตรง ลดความผิดพลาดจากการคีย์ข้อมูลซ้ำซ้อน
ข้อมูลไม่ Real-time
ต้องรอสรุปยอดตอนสิ้นวันหรือสิ้นเดือน กว่าจะรู้ข้อมูลก็สายเกินไป
แดชบอร์ดแสดงผลแบบ Real-time
ผู้บริหารเห็นปริมาณและมูลค่าของเศษซากได้ทันที ช่วยให้ตัดสินใจขายในเวลาที่เหมาะสมได้
ข้อมูลแยกส่วน (Data Silos)
ไฟล์ Excel ของฝ่ายผลิตไม่เชื่อมกับระบบบัญชีของฝ่ายการเงิน
ระบบเชื่อมโยงข้อมูลสมบูรณ์
เมื่อขายเศษซาก ระบบจะสร้างรายรับในโมดูลบัญชีและตัดสต็อกเศษซากออกจากคลังโดยอัตโนมัติ
ตรวจสอบย้อนกลับยาก
ยากที่จะรู้ว่าเศษซากล็อตนี้มาจากไลน์การผลิตใด หรือเกิดขึ้นเมื่อไหร่
Traceability เต็มรูปแบบ
ติดตามได้ว่าเศษซากแต่ละประเภทมาจากกระบวนการผลิตใด ช่วยในการวิเคราะห์เพื่อลดของเสียที่ต้นทาง

หยุดปล่อยให้กำไรกองเป็นขยะ! เริ่มสร้างระบบจัดการวันนี้

การจัดการเศษวัตถุดิบเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร ระบบ TAAX TEAM ERP ไม่เพียงแต่ช่วยคุณติดตามมูลค่าของเศษซาก แต่ยังเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับระบบคลังสินค้า การผลิต และบัญชีได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้คุณเห็นภาพรวมต้นทุนและกำไรที่แท้จริงของธุรกิจ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี ดูโซลูชัน ERP ของเรา
Taaxteam Post 7 July, 2025
Share this post
Tags